เนื้อหา
เสาหลักเมืองชุมแพ
เดิมเสาหลักเมืองนี้ อยู่ที่บ้านโนนเมือง อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอชุมแพเป็นระยะทาง 1 ก.ม. บริเวณโดยรอบเป็นเนินดินสูงมีพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ล้อมรอบด้วยคลองสองชั้นมีสะพานข้ามและมีทางเข้าออกทางเดียว ชาวอำเภอชุมแพเรียกพื้นที่ตรงนี้ว่า "กู่" ก่อนจะไปถึงกู่จะมีรูปพระนอนสลักลงบนหินปัจจุบันบริเวณนี้เป็นวัดป่าเมื่อปี พ.ศ.2498 ประมาณเดือน 4 ได้มีคนแก่มากราบเรียนท่านเจ้าคุณ พระราชสารธรรมมุนี(หลวงพ่อกัณหา)เจ้าคุณเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น วัดศรีนวลเล่าว่ามีอยู่วันหนึ่งเขาได้ไปนอนพักที่โรงนาฝันประหลาดว่าเห็นคนแก่นุ่งห่มชุดขาวบ่นว่า"อยากจะไปอยู่ในเมือง" คืนที่สองฝันอีกว่า "อยากจะไปอยู่ในเมือง" และพูดต่อว่า"อยากจะไปอยู่เป็นมิ่งขวัญของเมือง" พอคืนที่สามก็ได้ฝันลักษณะเดิมอีกจากนั้นพอตื่นขึ้นก็รู้สึกว่าร้อนรนอยู่ไม่ได้นอนไม่ได้ ไม่รู้จะไปปรึกษาใครก็เลยเดินทางเข้าในเมืองมาเล่าความฝันให้ท่านเจ้าคุณฟัง และท่านเจ้าคุณได้ถามว่า"ลักษณะตรงนั้นเป็นอย่างไร" คนแก่ตอบว่า "ลักษณะตรงนั้นเป็นกู่เก่า มีป่าขนาดใหญ่ต้นไม้ขึ้นหนาทึบมีเสาหิน และใบเสมาเป็นจำนวนมาก" ท่านเจ้าคุณก็เลยออกปากว่า"ถ้าเป็นมิ่งเป็นขวัญของเมือง ก็ต้องเป็นหลักเมือง"ประกอบว่าจังหวัดขอนแก่นยังไม่มีหลักเมืองท่านเจ้าคุณจึงเรียนให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น คือ หลวงพินิจและได้มอบหมายให้ฝ่ายพระมหาสุคนธ์พระอีกจำนวนหนึ่งพร้อมปลัดจังหวัดไปอัญเชิญหลักเมืองออกมาจากกู่และเกิดอาเพศฝนตกหนัก มีฟ้าผ่าลงมาโดนเสาหลักเมือง(ปัจจุบันเป็นเสาหลักเมืองอำเภอชุมแพ) รถเกิดติดหลุ่มไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ก็เลยปรึกษากันว่า "เฮาเป็นผู้น้อย ผู้ใหญ่บ่ได้มาเพิ่นเลยบ่ไป"และได้อัญเชิญหลักเมืองลงไว้ที่วัดพระนอน แล้วกลับมาเล่าเหตุการณ์ให้ท่านเจ้าคุณฟังท่านเจ้าคุณเลยไปอัญเชิญด้วยตัวเองได้นำหมอลำ หนัง มาฉลองที่วัดพระนอนหนึ่งคืนแล้วค่อยอัญเชิญออกมา สี่หลัก หลักที่หนึ่งอยู่ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่นหลักที่สองอยู่ที่ศาลหลักเมืองอำเภอชุมแพส่วนสองหลักที่เหลืออยู่ที่หน้าโบสถ์วัดศรีนวลจังหวัดขอนแก่นลักษณะหลักเมืองเป็นเสาหินทราย รูปทรง 8 เหลี่ยม สูงประมาณ 3 เมตรมีลายสลักตัวหนังสือขอมพิธีตั้งเสาหลักเมืองนิมนต์พระมาสวดยกตั้งตามแบบพิธีพุทธ ณ ที่สนามศาลาสุขใจ ท่านเจ้าคุณได้ตั้งชื่อว่า"ศาลเทพารักษ์หลักเมือง" มีนามย่อว่า "อินทร์ตา"การก่อสร้างได้ร่วมกันสร้างทั้งคนจีนและคนไทยนอกจากนี้ได้อัญเชิญอากงอาม่าอยู่รวมกันกับหลักเมือง คนจีนเรียกว่า"ศาลหลักเมืองกง" คนไทยเรียกว่า"ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง"
ที่มา : เว็บไซต์วิทยาลัยการอาชีพชุมแพ http://www.chumphae.ac.th/main/index.php/historychumphae/63-travel